เล่าชีวิตเด็กไทยในมหา'ลัยศิลปะเกาหลี ทั้งสวยทั้งเก่ง!!
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และ KoreanKori
คอลัมน์เดียวที่จะทำให้น้องๆ รู้จักประเทศเกาหลีใต้มากขึ้นทุกๆ
วันพุธเช่นเคย! วันนี้ก็เป็นตอนที่ 23 แล้ววว โอ้วววไวมาก (มีใคร
อ่านทุกตอนไม่เคยพลาดมั้ย? อิอิ)
คอลัมน์เดียวที่จะทำให้น้องๆ รู้จักประเทศเกาหลีใต้มากขึ้นทุกๆ
วันพุธเช่นเคย! วันนี้ก็เป็นตอนที่ 23 แล้ววว โอ้วววไวมาก (มีใคร
อ่านทุกตอนไม่เคยพลาดมั้ย? อิอิ)
สำหรับเรื่องราวของ KoreanKori ในตอนนี้ ขอบอกก่อนเลยว่า
ไม่เหมือนตอนอื่นที่ผ่านมาค่ะ! เพราะตอนนี้ พี่เป้ มีเรื่องราวประสบ-
การณ์ของนักเรียนไทยที่ได้ทุนไปเรียนต่อที่เกาหลีมาฝาก โดย
มหาวิทยาลัยที่เธอคนนี้ได้ไปเรียน ไม่ใช่มหาวิทยาลัยธรรมดานะคะ
แต่เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะด้านศิลปะ ใครไม่อาร์ตจริง เรียนไม่ได้นะ!
และที่สำคัญ เธอยังน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ด้วยล่ะค่ะ >//< เอาเป็นว่า
ถ้าอยากทำความรู้จักกับเจ้าของเรื่องประสบการณ์สนุกๆ ของ
KoreanKori ตอนที่ 23 ก็เลื่อนไปอ่านได้เลยจ้า
สวัสดีค่ะ ชื่อ "ซายน์-ลักขณา ทองสยาม" อายุ 21 ปี กำลังศึกษาปริญญาตรีอยู่ที่ Korea National University of Arts (KNUA) สาขา School of Film, TV and Multimedia ผ่านทุน Art Major Asian Scholarship หรือ AMA ปี 2012 โดยรุ่นซายน์เป็นเด็กทุน AMA 8th จ้า วันนี้ซายน์จะมาเล่าเรื่องราวชีวิตกับการเป็นเด็กทุนตัวเล็กๆ (เน้นตัวเล็กๆ 555) ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่มาเรียนอยู่ที่เกาหลีค่ะ ใครกำลังสนใจไปเรียนมหาวิทยาลัยทางด้าน ศิลปะ ดนตรี และการแสดงไม่ควรพลาด! อิอิ ซายน์รู้จักทุนนี้โดยมีอาจารย์ที่สอนภาษาเกาหลีท่านแนะนำมาค่ะว่า ถ้าสนใจไปเรียนเกี่ยวกับ นิเทศศาสตร์ที่เกาหลี ลองส่งทุน AMA นี้ดูมั้ย เพราะว่าเป็นทุน 100% ทางทุนจะออกค่า ใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมทั้งตั๋วเครื่องบินด้วย และมีเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้ทุกเดือนด้วยค่ะ หลังจากนั้นพอมาคิดๆ แล้วซายน์ก็เลยเกิดความสนใจ เพราะซายน์สนใจทั้งเรียนภาษาเกาหลี แล้วก็สาขานิเทศอยู่แล้วเลยคิดว่า เอาวะ!! ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหายอะไร ถือว่าเป็นประสบ การณ์ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าส่งโอกาสก็คือ 50-50 แต่ถ้ายอมแพ้ไม่ยอมลองแม้แต่จะส่งทุน โอกาสมันก็เป็นศูนย์จริงมั้ยคะ? ในเมื่อทุกคนมีโอกาสส่งทุนเหมือนกัน เราก็ลองดู!! 5555 ฮึ้ดมากค่ะตอนนั้น ให้กำลังใจตัวเองก่อน สุดท้ายก็ลองส่งค่ะ
Study plan ซายน์เข้าไปดูวิชาสาขาในเว็บของทางมหาวิทยาลัยค่ะ ซายน์เลยได้รู้ราย
ละเอียดในวิชาที่เราต้องเรียนอย่างคร่าวๆ ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่าเราสนใจที่จะเรียนในสาขาวิชานี้ จริงๆ ทำให้เราได้แนวทางในการวางแผนการเรียนว่าทำอย่างไรที่จะทำให้เราสามารถประสบ ความสำเร็จในเป้าหมายที่วางไว้ได้ และนำความรู้ที่เราได้มาจากสาขาที่เราเรียน กลับมาใช้ ให้เกิดประโยชน์อย่างไรได้บ้าง กับใครได้บ้างในสังคม ? ในส่วนไหน? ด้านไหน? อย่างไร? ประมาณนี้ค่ะ Portfolio ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญมากๆ ค่ะ สำหรับการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยศิลปะใน ทุกที่ เพราะกรรมการผู้คัดเลือกจะสามารถรู้ได้อย่างชัดเจนจากจุดนี้ว่าเรามีพื้นฐานความรู้ ความสนใจในสาขามากน้อยแค่ไหนผ่านตัวผลงานที่ส่งไปค่ะ โดยสำหรับซายน์เองเน้นนำ เสนอผลงานของซายน์ที่ผ่านมาโดยผลงานที่ส่งมีความเกี่ยวข้องกับสาขาที่ซายน์เลือกค่ะ อย่างผลงานที่ซายน์ส่งไปก็มีทั้งตัวที่เป็นเอกสารและ VDO ค่ะ หลังจากที่ส่งเอกสารทุนไปมหาลัยเรียบร้อยระหว่างนั้นก็เรียนที่ม.บูรพา สาขาวิชาเอกเกาหลี ค่ะ รอประกาศผลหลายเดือนมากจนซายน์ลืมไปเลยว่าส่งทุนไป 555 มาถึงวันที่ประกาศผล น้องสาวโทรมาบอกว่าได้ทุน AMA แล้วนะ ที่บ้านดีใจมากๆ หลังจากนั้นก็รีบไปเช็คผลทาง อินเตอร์เนต สรุปว่า ได้รับอีเมล์ตอบรับว่าเราได้รับทุนค่ะ ตอนนั้นรู้สึกมันเหมือนความฝัน นาทีนั้นมันเหมือนกับว่าโลกหยุดหมุน นํ้าตาไหลดีใจจนพูดไม่ออก ประหนึ่งนางงามได้มงกุฎ เพชร จินตนาการเรากำลังเอามือกุมปากถึงความเหลือเชื่อ 55555 เวอร์ไปนั่น ฮ่าาาา จากนั้นก็เตรียมตัว เตรียมเอกสารทำวีซ่าเพื่อเดินทางไปเกาหลีเดือน พ.ย. ค่ะ (ป.ล.ถ้าได้ ทุนนี้จะได้เชื้อสายจีนด้วยนะคะ 555 เพราะอะไรเอ่ย? เพราะนักเรียนทุนจะเรียกแทน ตัวเองและทุนว่า”อาม่า”ที่มีจากการอ่านจากอักษรย่อ AMA ค่ะ ดังนั้นคนที่ได้รับ ทุนพวกลื๊อก็จาล่ายเปงหลานอาม่า 5555+)
ซายน์เดินทางมาถึงเกาหลีช่วงปลายเดือน พ.ย. ค่ะ หลังจากนั้นก็ต้องเริ่มเรียนเข้าคอร์สเพื่อ
ปรับภาษาเกาหลีค่ะ ในปีที่ซายน์ได้มาคือ AMA รุ่นที่ 8 กำหนดให้เรียนภาษาที่สถาบันภาษา ของมหาวิทยาลัยและพักอยู่หอนอกที่ทางทุนจัดไว้ให้ค่ะ และมหาวิทยาลัยที่ได้เรียนภาษาคือ มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyunghee University) ค่ะ ซายน์ต้องขอบอกว่า มหาลัยเค้าสวยมากๆ จริงๆ ค่ะ ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาเลย อิอิ ส่วนการเรียนภาษาจะต้องมีการสอบวัด ระดับว่าอยู่ระดับไหนก่อนแล้วก็จะถูกย้ายแบ่งไปเรียนกันแยกห้องตามระดับค่ะ เพื่อที่ทุกคน จะได้ไม่มารวมกลุ่มรู้จักกันเฉพาะเด็กทุนเท่านั้น คือเราต้องเรียนร่วมกันกับเพื่อนต่างชาติ คนอื่นๆ ค่ะ ระดับภาษาจะแบ่งใหญ่ๆ เป็น 3 ระดับค่ะ พื้นฐาน ขั้นกลาง ขั้นสูง ของซายน์สอบได้ขั้นกลาง ก็ได้เรียนกับเพื่อนต่างชาติ 4 ประเทศค่ะ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศสแล้วก็ตุรกี ช่วง 3 เดือนที่เรียน ภาษามีความสุขมากค่ะ เพื่อนๆ อาจารย์น่ารักมากๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยค่ะ หลังเลิกเรียนก็ไปลั้ลลา แฮงเอาท์กับเพื่อนๆ ต่างชาติ ยิ่งช่วงที่ได้ไปเป็นหน้าหนาวปลายปี สินค้าลดกระหนํ่า Winter Sale จัดหนัก ช็อปกระจาย!! อันนั้นก็น่ารัก อันนี้ก็สวย เอ๊ะ แต่ อันนั้นก็ดี เพราะแบบนี้เลยต้องได้จ่ายกันทุกวันค่ะ ช่วงนั้นถือว่าช่วงขาขึ้นชีวิตแฮปปี้ดี๊ด๊าสุดๆ ไปเลยค่ะ วู้วววว ~ พอช่วงใกล้เปิดเทอมก็ย้ายหอเพื่อเข้าไปอยู่หอพักของมหาลัย KNUA หอพักเป็นหอพักรวมนะคะ มีทั้งหมด 4 ชั้นค่ะ ภายในหอทุกชั้นจะมีครัวรวมสามารถทำ อาหารได้ค่ะ ส่วนชั้นใต้ดินก็จะมีห้องฟิตเนส ห้องซักรีด ห้องคอม ห้องอ่านหนังสือค่ะ
เท่าที่จำได้บอกไปแต่ว่า "เอ่ออ 555+ สวัสดีค่ะ เป็นนักเรียนทุน AMA รุ่นที่ 8 ค่ะ มาเรียนที่ เกาหลีเป็นครั้งแรก พูดภาษาเกาหลีไม่เก่ง แต่ก็จะพยายามเรียนให้มากกว่านี้" แล้วก็มีเสียง ปรบมือ แปะๆๆๆ เป็นกำลังใจ 555 หลังจากกลับมาวันนั้นคิดว่าเราต้องเตรียมตัวเรื่องภาษาให้ มากขึ้นนนนนน fighting ฮุเร่!!~~ วิชาที่ซายน์เรียนในช่วงปีหนึ่งก็จะเรียนเกี่ยวกับวิชาพื้นฐานนิเทศศาสตร์ การตัดต่อพื้นฐาน การจัดแสง การถ่ายทำพื้นฐาน ส่วนมากในเวลาเรียนจะเป็นการสอนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจใน บทเรียน แล้วให้แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นภายในห้องค่ะ เวลาทำงานส่วนมากก็จะเป็น การทำงานเป็นกลุ่มพวกงาน Workshop ที่เน้นการปฏิบัติ เพราะสุดท้ายจุดประสงค์ของเค้าก็ คือต้องการให้เราทำงานเป็น ได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาจากประสบการณ์จริง เรื่องของการเรียนการสอนนั้น ในแต่ละสาขาวิชาเอกจะเน้นทฤษฎีหรือปฏิบัติซึ่งอาจจะมี แตกต่างกันบ้าง อย่างสาขาที่ซายน์เรียนในเทอมแรกวิชาที่เรียนนั้น จะเป็นการเข้าฟังบรรยาย ทฤษฎีร่วมกับสาขาอื่นๆ ในคณะ เช่น วิชา Field Study อันนี้จะเป็นบรรยายในห้องประชุม แต่ก็มีวิชาบรรยายเฉพาะสาขาเอกวิชาอย่างวิชา Mass Communication and Society, Basic Cinematography for TV เป็นต้นค่ะ ส่วนบรรยากาศการเรียนในชั้นเรียนที่เกาหลีนั้น แตกต่างจากการเรียนที่ไทยอยู่ค่อนข้างมากค่ะ อย่างแรกคือจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนต่อ หนึ่งห้อง อย่างในห้องซายน์มีนักเรียนทั้งหมดเพียง 22 คน ถือว่านักเรียนต่อห้องมีไม่มากค่ะ ทางมหาลัยคิดว่าการสอนให้มีประสิทธิภาพนั้นไม่ควรมีจำนวนนักเรียนมากจนเกินไป เพื่อ ให้เข้าถึงนักเรียนและสอนได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
เข้าสู่โหมดดราม่าเล็กน้อย ฮ่าๆ ก่อนอื่นยอมรับเลยค่ะว่าคนเกาหลีเรียนหนักจริงๆ สิ่งที่ตาม
มาคือ นักเรียนทุนต้องขยันมากกว่าคนเกาหลีมากๆ เพราะปัญหาภาษาที่อาจทำให้ไม่เข้าใจ ภายในห้องเรียน บางคนคิดว่าการสื่อสารในชีวิตประจำวันนั้นเพียงพอแล้ว ซายน์บอกได้เลย ค่ะว่า คุณคิดผิด เพราะว่ามันไม่เพียงพอต่อการเรียนในชั้นเรียนที่เรียนเป็นภาษาเกาหลี ทั้งหมดได้ ต้องกลับมาทบทวนบทเรียน ซึ่งบางทีบอกตามตรงค่ะว่าไม่รู้จะเริ่มตรงไหนเลย เพราะถ้าการบ้านต้องทำ หนังสือต้องอ่าน ก็ต้องแบ่งเวลามากๆ จนบางทีคิดอยากให้วันนึงมี สัก 48 ช.ม.จะได้จัดสรรเวลาทำทุกอย่างให้มันออกมาดีและทันเวลา
ประสบการณ์นอกเหนือจากการเรียนก็คือทำงาน part time แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าทำงาน
แบบจริงๆ จังๆ เสียทีเดียวนะคะ 555 เพราะทางทุนไม่อนุญาตให้นักศึกษาชาวต่างชาติปี 1 ปี 2 ทำงานเพราะกลัวจะเสียการเรียนค่ะเนื่องจากเรียนหนักอยู่แล้ว แต่ที่เคยได้ลองทำดูคือ ตัวประกอบ แล้วก็ถ่ายแบบให้กับร้านทำผมแถวมหาวิทยาลัยฮงอิกค่ะ การทำงาน ทั้งสองอย่างน่าสนใจมากๆ อีกอย่างคืองานเหล่านี้ทำให้ซายน์ได้เรียนรู้ระบบการทำงาน ของคนเกาหลีและได้เปิดโลกทัศน์ด้วยค่ะ ตัวอย่างงานนึงที่ซายน์เคยมีโอกาสทำก็คือ การได้ร่วมงานในการถ่ายทำละครเรื่องหนึ่งของ ช่อง KBS ค่ะ ถึงแม้จะเป็น extra ตำแหน่งเล็กๆ แต่ก็ทำให้ซายน์ได้เรียนรู้และสังเกตถึงการ ทำงานเบื้องหลังของคนเกาหลี เช่น คนเกาหลีจะตรงต่อเวลามากๆ ควรมาถึงก่อนเวลานัด สัก 10-15 นาที เพราะบางการถ่ายทำอาจถ่ายทำในตอนเช้า แล้วต้องตัดต่อเพื่อออกอากาศ ภายในวันนั้น ทำให้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเวลาที่เค้ากำหนดและต้องออกมาดีด้วยค่ะ หากไม่มีเรื่องฉุกเฉิน ในการทำงานจึงแทบไม่มีใครมาสายเลยค่ะ
นอกจากเตรียมเอกสารแล้ว อย่าลืมเตรียมเรื่องภาษาด้วยนะคะ ส่วนมากจะขอ TOPIK ระดับ 3 ค่ะ แต่บางปีก็มีหลายคนที่ไม่ได้ภาษาเกาหลีมาก่อนเลยแต่ได้ทุนเหมือนกัน (แต่มัน จะลำบากเรื่องเรียนและการใช้ชีวิตที่นี่เป็นอย่างมากค่ะเพราะว่าทุกวิชาจะสอนเป็นภาษา เกาหลี) จริงๆ ทุนจะให้เราเรียนภาษาด้วย แต่น้อยมากค่ะ แค่เพียงประมาณสามเดือนเพื่อ เตรียมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น หากเราไม่มีพื้นภาษาเกาหลีมาก่อนเลย มันจะทั้ง ปรับตัวลำบาก อย่างตัวซายน์เองแม้จะมีพื้นฐานมาก่อนบ้าง แต่ยอมรับเลยว่ามันยัง ไม่พอสำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัยค่ะ บางวิชาซายน์ยังไม่สามารถจะลงเรียนได้เลย เพราะอาจารย์บอกว่าคุณต้องได้ภาษามากกว่านี้ไม่งั้นจะไม่อนุญาติให้ลงเรียนในวิชานั้นๆ เพราะฉะนั้นน้องๆ ที่สนใจส่ง ทุนหากเตรียมเรื่องภาษามาให้ดีก็จะช่วยเราให้เรียนสนุกและ ใช้ชีวิตในเกาหลีได้สนุกมากขึ้นด้วยค่ะ .... ซายน์ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนที่สนใจ ทุนนี้นะคะ ถ้าคิดว่ามันใช่แล้ว ลองส่งมาเลยค่ะ แล้วมาเป็นหลานอาม่ากันนะคะ อิอิ By : Lakkhana Thongsiam (Syne)
Art Major Asian Scholarship Student (AMA 8th)
Facebook : http://www.facebook.com/misssyne
Twitter : https://twitter.com/misssyne
|


โอ๊ยยย อ่านจบแล้วมีใครตกหลุมรักน้องซายน์เหมือน พี่เป้ มั้ย
ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังเขินเลยอะ ฮ่าๆๆๆ ^^และสำหรับน้องๆ
คนไหนที่สนใจทุน AMA แบบน้องซายน์ล่ะก็ เค้าจะเปิดรับสมัคร
กันช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีนะคะ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียด
การสมัครได้ที่นี่เลย คลิก และถ้าอยากสมัครล่ะก็ เตรียมพอร์ตฟอลิโอ
กัน ณ บัดนาว!! ไม่มีพอร์ต เค้าไม่รับพิจารณานะจะบอกให้!
ที่มา http://www.dek-d.com/content/studyabroad/30527/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5-ama.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น